13 Small Villages หมู่บ้านเล็กรอบโลกที่น่าไปสัมผัสสักครั้ง

         

13 Small Villages  หมู่บ้านเล็กรอบโลกที่น่าไปสัมผัสสักครั้ง

สำหรับการเดินทางไปเที่ยวยังประเทศต่างๆทั่วโลกนั้น หากเบื่อแสงสีของมหานครใหญ่ๆแล้ว วันนี้ฟรีเบิร์ด ทราเวิล แอนด์ ทัวร์ ขอพาทุกท่านเปลี่ยนบรรยากาศไปตีท้ายครัวดูหมู่บ้านสุดชิคมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว สวยงามติดอันดับ และนับเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสุดอันซีนกับ 13 small villages หมู่บ้านเล็กรอบโลกที่น่าไปสัมผัสสักครั้ง จะมีหมู่บ้านไหนบ้างตามไปดูกันครับ

1. หมู่บ้านอะบียาเน่ห์(Abyaneh Village) ประเทศอิหร่าน

Abyaneh Village


หมู่บ้านดินสีชมพูที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางหุบเขาคาร์คาส(Karkas) หุบเขาสูงใหญ่ เมือง isfahan ของอิหร่าน เป็นหมู่บ้านที่เคยปิดตัวจากโลกภายนอก จึงยังคงความเป็นเอกลักษณ์ความสวยงามในแบบเดิมไว้ได้ อาคารบ้านเรือนต่างๆ สร้างจากวัสดุธรรมชาติอย่างอิฐ ไม้ และฉาบสุดท้ายด้วยดินเหนียวสีชมพู บ้านเมืองต่างๆในเมืองก็จะถูกสร้างสไตล์เดียวกันหลายหลังดูสบายตา ด้วยความที่อยู่กลางหุบเขาสูงบรรยากาศจึงเย็นสบายไม่ร้อนมาก มีทั้งวิวหมู่บ้าน และวิวเทือกเขาสูง อะไรจะสวยไปกว่านี้


2. หมู่บ้านกลางน้ำทะเลสาบติติกากา(Titicaca Lake) ชายแดนประเทศเปรู โบลิเวีย

Titicaca Lake


หมู่บ้านสุดแปลกที่อยู่ระหว่างพรมแดนเปรู โบลิเวียนี้ เป็นที่อาศัยของชาวพื้นเมืองอูรอส(Uros) ชนเผ่าดั้งเดิมที่ตั้งรกรากอยู่บริเวณทะเลสาบติติกากา ทะเลสาบที่อยู่สูงที่สุดในโลก และใหญ่ที่สุดในอเมริกาใต้ ความพิเศษของเกาะอยู่ที่พื้นของเกาะทั้งหมดสร้างขึ้นมาจากต้นกกชนิดพิเศษที่ขึ้นอยู่บริเวณพื้นที่แถวนี้เท่านั้น ต้นกก หรือที่เรียก 'โตโตร่า' หรือโทโทรา(Totora) ที่ชาวอูรอสมีภูมิปัญญาในการนำต้นกกชนิดนี้ไปทำสิ่งของต่างๆไม่ว่าจะเป็นเรือ ตลอดจนบ้านเรือนต่างๆ ใครได้เดินทางไปเที่ยวทะเลสาบติติกากานั้นห้ามพลาดการเที่ยวชมความแปลกของหมู่บ้านลอยน้ำแห่งนี้ และห้ามพลาดการนั่งเรือที่สานจากต้นกกกันด้วยได้อารมณ์แปลกอย่าบอกใครเลย คลิกอ่านเคยนั่งไหม 5 เรือฮิปๆสัมผัสชีวิตคนท้องถิ่น

 

3. บ้านดินถู่โหลว หรือฝูเจี้ยนถู่โหลว(Fujian Tulou) สาธารณรัฐประชาชนจีน

Fujian Tulou


หมู่บ้านสุดแปลกหากมองจากมุมสูงเคยถูกเข้าใจผิดด้วยซ้ำว่าเป็นปล่องของอาวุธขีปนาวุธหรือเปล่า หมู่บ้านแห่งนี้มีชื่อเรียกเฉพาะว่า บ้านดินถู่โหลว หรือฝูเจี้ยนถู่โหลว(Fujian Tulou) รูปแบบของการสร้างบ้านประเภทนี้จะมีลักษณะเป็นทรงเหลี่ยม และทรงกลม หลายชั้น แบ่งซอยพื้นที่ออกเป็นห้องๆ แต่ละหลังใหญ่สามารถอาศัยได้ถึง 800 คน มีทางเข้าเพียงทางเดียว ตั้งอยู่ท่ามกลางทุ่งนา ไร่ชา และไร่ยาสูบ มีบ่อน้ำอยู่ตรงกลาง ด้วยความเก่าแก่ และเอกลักษณ์ที่รักษามาอย่างยาวนานทำให้บ้านดินถู่โหลวได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือยูเนสโก (United Nations Educational, Scientific and Cultural Organization – UNESCO)

 

4. หมู่บ้านหลังคาทรงกรวยตรูลี่(Trulli) เมืองอัลเบลโรเบลโล ประเทศอิตาลี

Trulli


หมู่บ้านสีขาวหลังคาทรงกรวย หรือทีเรียกว่า ตรูลี่ (Trulli) เมือง Alberobello แคว้น Pugia เมืองทางตะวันออกเฉียงใต้ของอิตาลี มีความสวยงามแปลกตา เป็นแหล่งท่องเที่ยวอันซีนที่สำคัญของอิตาลี และยังได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกของยูเนสโก้ด้วย คลิกอ่าน ตรูลี (Trulli) หมู่บ้านทรงกรวย มรดกโลกในอิตาลี

 

5. หมู่บ้านซาลิพาย(Zalipie) ประเทศโปแลนด์

Zalipie

หมู่บ้านแห่งศิลปะที่มีสีสันสดใสจากการแต่งแต้มของสีผ่านปลายพู่กัน ประดับประดาอยู่ตามข้าวของเครื่องใช้ กำแพง ผนังต่างๆทั่วไปจนดูเหมือนอยู่กลางทุ่งดอกไม้ก็ไม่ผิด ศิลปะการวาดรูปดอกไม้ต่างๆของหมู่บ้านแห่งนี้เป็นศิลปะพื้นเมืองที่เรียกว่า Folk art เป็นศิลปะของชาวโปแลนด์ที่ได้รับการสืบทอดมาตั้งแต่อดีต คลิกอ่าน ซาลิพาย(Zalipie) หมู่บ้านศิลปะในโปแลนด์

 

6. กอลมาร์(Colmar) หมู่บ้านสุดโรแมนติก ดั่งเทพนิยาย ประเทศฝรั่งเศส

Colmar


นึกภาพตามเทพนิยายที่จะมีหมู่บ้านสไตล์ยุโรปตลอดสองข้างทางเต็มไปด้วยดอกไม้กระถางเล็กกระถางน้อย ในหมู่บ้านมีสายน้ำไหลเอื่อยๆดูแล้วสบายตาเป็นอย่างยิ่ง ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ท่านจะได้เห็นมันในหมู่บ้านเล็กๆสุดโรแมนติกอย่างกอลม่าร์ หมู่บ้านแสนสวยในแคว้นอัลซาซ หรือแคว้นอัลซัส(Alsace) บ้านเรือนภายในหมู่บ้านมีการสร้างแบบสถาปัตยกรรมเยอรมันที่มีสีสันสวยงาม(Timber House) คลิกอ่าน เที่ยว 5 เมืองสุดโรแมนติกแห่งแคว้นอัลซัส ฝรั่งเศส

 

 7. เลาเทอร์บรุนเนิน(Lauterbrunnen) ประเทศสวิตเซอร์แลนด์

Lauterbrunnen

สวิตเซอร์แลนด์ประเทศที่ขึ้นชื่อเรื่องธรรมชาติอยู่แล้วไม่ว่าจะเป็นภาพภูมิทัศน์ของทุ่งหญ้าเขียวขจี วิวภูเขาหิมะขนาดใหญ่ วัวน้อยใหญ่แทะหญ้าอยู่ริมทางรถไฟ “เลาเทอร์บรุนเนิน” หนึ่งในหมู่บ้านในฝันที่สักครั้งก็ควรต้องไปสัมผัสให้ได้ เลาเทอร์บรุนเนินหมู่บ้านเล็กๆในหุบเขาที่เงียบสงบ ธรรมชาติสวยงาม เป็นจุดมุ่งหมายของนักเดินทางหลายคนที่วางแผนในการพิชิตภูเขาจุงเฟรา ภายในหมู่บ้านอยู่ท่ามกลางหุบเขาสูงชันมีน้ำตกหลายสายมาสิ้นสุดและตกมายังภายในหมู่บ้านแห่งนี้เป็นภาพของน้ำตกที่ตกจากที่สูงและเกิดไอกระจายไปทั่วเมือง สร้างความตื่นตาตื่นใจให้นักท่องเที่ยวไม่น้อย หากท่านใดรู้สึกเหนื่อยล้า และอยากหาแรงบันดาลใจละก็แนะนำให้ไปสักครั้งจริงๆ

 

8. หมู่บ้านชาวประมงฮัมนอย(Hamnoy Fishing Village) ประเทศนอร์เวย์

Hamnoy Fishing Village

ภาพของหมู่บ้านหลังสีแดงสดกับวิวทะเลและภูเขามักคุ้นชินตากับหลายๆคน ที่นี่คือหมู่บ้านชาวประมงเล็กๆชื่อว่า ฮัมนอย เป็นหนึ่งในหมู่บ้านในอาณาเขตพื้นที่แสนสวยอย่างโลโฟเทน หมู่เกาะที่มีวิวดีสุดๆ อากาศก็สดชื่น หมู่บ้านแห่งนี้ไปฤดูไหนก็สวย ถ้าไปฤดูหนาวก็จะมีความขาวของหิมะตัดกับสีสดใสของตัวบ้านเมือง หรือจะไปช่วงฤดูร้อนก็จะมีความตัดสีเขียวไปอีก สวยสดในทุกฤดูกาลแบบนี้ห้ามพลาดกันล่ะครับ

 

9. หมู่บ้านมรดกโลกชิราคาวะโกะ(Shirakawago) ประเทศญี่ปุ่น

Shirakawago


หมู่บ้านที่มีเอกลักษณ์อยู่ที่รูปทรงของบ้านแต่ละหลังเป็นทรงสามเหลี่ยม หลังคามุงด้วยหญ้าฟางหนาไม่ใช้ตะปูสักตัวเดียวเลย บ้านลักษณะนี้สามารถกันลมกันอากาศอันหนาวเหน็บได้อย่างดี หมู่บ้านแห่งนี้ตั้งอยู่ในจังหวัดกิฟุประเทศญี่ปุ่น ด้วยความแปลกและเอกลักษณ์ที่สืบทอดมาอย่างยาวนานจึงได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี ค.ศ.1995


ความสวยงามของหมู่บ้านแห่งนี้ไม่ต้องคิดให้เยอะไปว่าจะมาช่วงไหนดีมาได้ทั้งปีครับ ไม่ว่าจะมาฤดูไหนวิวไม่ซ้ำกันแน่นอน จะเป็นช่วงที่หิมะตกก็ดีมีความขาวของหิมะปกคลุม และแสงไฟที่ลอดออกมาตามบ้านเรือนก็ดูสวยดี หรือจะเป็นช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีก็จะได้บรรยากาศที่ดูสีสดใสอีกต่างหาก จองตั๋ว จองทัวร์มาโลด แนะนำครับ


10. หมู่บ้านกีธูร์น(Giethoorn) ประเทศเนเธอร์แลนด์

Giethoorn


หมู่บ้านกีธูร์นเป็นหมู่บ้านไร้ถนนที่อยู่ในประเทศเนเธอร์แลนด์ ไม่มีถนนแล้วจะสัญจรกันยังไงล่ะ ไม่ต้องห่วงครับที่หมู่บ้านแห่งนี้การสัญจรหลักก็คือการล่องเรือไปตามคลอง และสะพานข้ามคลองที่มีอยู่ทั่วไปกว่า 180 สะพานนั่นเอง หมู่บ้านกีธูร์นตั้งอยู่ที่ประเทศเนเธอร์แลนด์ได้รับฉายาสวยๆว่า “เวนิสแห่งดัตช์” ตัวบ้านภายในหมู่บ้านนี้ตกแต่งไม้ดอกและสวนอย่างสวยงาม บ้านมีการสร้างแบบกระท่อมยุโรปหลังน้อย เรียกได้ว่าตัวบ้านก็สวยงามกะทัดรัด สวนก็จัดได้สวย กิจกรรมที่นักท่องเที่ยวนิยมในการมาเที่ยวคือการนั่งเรือชมความร่มรื่นและธรรมชาติอันเงียบสงบของหมู่บ้าน หรือจะนั่งจิบกาแฟตามคาเฟ่ริมน้ำบรรยากาศดีๆกินขนมชิลๆก็เข้าท่าเหมือนกันนะ คลิกอ่านเต็มๆ เที่ยวหมู่บ้านกีธูร์น หมู่บ้านไร้ถนนในเนเธอร์แลนด์ 

 

11. หมู่บ้านอีวัวร์(Yvoire) ประเทศฝรั่งเศส

Yvoire


กว่า 700 ปี ของความร่มรื่นสวยงามแห่งหมู่บ้านมหัศจรรย์ริมทะเลสาบเจนีวา อีวัวร์ หมู่บ้านเล็กๆที่ดูร่มรื่นไม่วุ่นวายอะไร แต่สิ่งที่อิวัวร์ได้ซ่อนไว้คือความงดงามของบ้านเมืองสไตล์ยุโรปโบราณ และยังมีธรรมชาติอันร่มรื่นอีก จึงเป็นอีกจุดเช็คพ้อยท์ที่เหล่านักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดหากไปเที่ยวฝรั่งเศส ทำความรู้จักอีวัวร์มากขึ้นได้ที่ เที่ยวหมู่บ้านอีวัวร์(Yvoire) หมู่บ้านสวยในฝรั่งเศส

 

12.หมู่บ้านเอีย(OIA) ประเทศกรีซ 

OIA


'OIA' ก็เป็นอีกหนึ่งหมู่บ้านที่นักท่องเที่ยวห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวงเพราะที่นี่เป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกดินที่สวยที่สุดบนเกาะซานโตรินี่(Santorini) ในประเทศกรีซเลยทีเดียว ตัวบ้านสีขาวสลับตัดกับหน้าต่างไม้สีน้ำตาล หน้าต่างสีฟ้าเข้ม บ้างเสริมความเด่นด้วยหลังคาโดมสีฟ้า ส่งบรรยากาศให้สุดโรแมนติกด้วยสีฟ้าของน้ำทะเล สวยจนอยากหยุดเวลา แนะนำให้แต่งตัวสวยๆแล้วเดินโลดแล่นถ่ายรูปรอบหมู่บ้านแค่นี้ก็สุขใจเหลือเกิน คลิกอ่าน OIA ไปกรี๊ดกันที่กรีซ

 

13. หมู่บ้านในคอตส์โวลดส์ หรือคอตโวลดส์(costwods) ประเทศอังกฤษ  

 costwods england

 

หมู่บ้านขรึมๆ แนวคันทรี ที่ถูกสร้างด้วยหินสีน้ำตาลหม่นออกแนวทึมๆให้บรรยากาศเหมือนหลุดเข้าไปในเทพนิยาย คอตส์โวลดส์ หรือคอตโวลดส์(costwods) ตั้งอยู่ทางตะวันตกตอนใต้ของประเทศอังกฤษ พื้นที่ชนบทที่เป็นเนินเขาและทุ่งหญ้า  คอตส์โวลดส์ หรือคอตโวลดส์(costwods) มีหมู่บ้านเล็กหมู่บ้านน้อยกระจายอยู่มากมาย บางหมู่บ้านมีลำธารสายเล็กๆไหลผ่ากลางดูสดชื่นและมีเสน่ห์น่าไปพักผ่อนจริงๆ


         

 


 

 - หากบทความนี้ดีต่อใจ ชวนคนที่คุณรักมาเที่ยวกับฟรีเบิร์ดทัวร์กันค่ะ -   

สนใจโปรแกรมทัวร์ต่างประเทศคลิกที่นี่

 

คุยกับครอบครัวฟรีเบิร์ดทัวร์

โทร.02-0488-785-7 Hotline 085-151-1000 , 094-782-6888 และ 093-570-3000

    instagramfreebirdtour  twitter freebirdtour  Youtube freebirdtour     


Visitors: 410,501