อิหร่าน | สัมผัส 6 เมืองสวยที่จะทำให้คุณหลงรัก 'อิหร่าน'

         

iran

 

อิหร่าน(Iran) หรือมีชื่ออย่างเป็นทางการว่าสาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน เป็นประเทศใหญ่เป็นอันดับสองในตะวันออกกลางและอันดับที่ 18 ของโลก มีอารยธรรมเก่าแก่ มีวัฒนธรรมหลากหลาย มีมรดกทางวัฒนธรรมที่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกอยู่หลายแห่ง ผู้คนยิ้มแย้มและเป็นมิตร ทั้งหมดนี้คือเหตุผลที่ฟรีเบิร์ด ทราเวิล แอนด์ ทัวร์ อยากจะชวนคุณไปสัมผัสกับ 6 เมืองสวยที่จะทำให้คุณหลงรัก 'อิหร่าน' 

 

1. กรุงเตหะราน(Tehran)

 

tehran

 

กรุงเตหะรานเป็นเมืองหลวงของประเทศอิหร่าน และเป็นเมืองที่มีประชากรอาศัยอยู่มากถึง 15 ล้านคน เป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรม และธุรกิจของประเทศ มีสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญสวยๆมากมาย สถานที่ท่องเที่ยวเหล่านี้ส่วนใหญ่เกิดขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 18 ถ้ามาถึงกรุงเตหะรานแล้วก็ต้องไม่พลาดที่จะไปเที่ยวยังสถานที่เหล่านี้

 

 

พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติอิหร่าน(National Museum of Iran)

 

พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติอิหร่านเป็นสถานที่จะบอกเล่าเรื่องราวประวัติศาสตร์ของอิหร่านได้เป็นอย่างดี ภายในพิพิธภัณฑ์เป็นที่เก็บรวบรวมวัตถุทางโบราณคดีที่ใหญ่ที่สุดในประเทศนับตั้งแต่ยุคหินเก่า(Paleolithic) จนถึงช่วงปลายของอิสลาม  วัตถุโบราณต่างๆเหล่านี้แสดงถึงการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์ และความสำเร็จทางวัฒนธรรมในอิหร่าน เครื่องประดับส่วนบุคคลยุคหินเก่า รูปปั้นทองสัมฤทธิ์ขนาดเท่าตัวจริง ภาพวาดด้วยปากกาและหมึก เป็นต้น พิพิธภัณฑ์ตั้งอยู่ใจกลางกรุงเตหะราน พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติอิหร่านแบ่งออกเป็น 2 ส่วน   คือ 

พิพิธภัณฑ์อิหร่าน บาสตัน  หรืออิหร่านโบราณ(Museum (Ancient Iran) นับเป็นอาคารหลังแรกในอิหร่านที่ออกแบบและสร้างเป็นพิพิธภัณฑ์โดยเฉพาะ ออกแบบโดยสถาปนิกชาวฝรั่งเศสชื่อ Andre Godard เขาเป็นทั้งสถาปนิก นักโบราณคดี และนักประวัติศาสตร์ พิพิธภัณฑ์นี้สร้างโดยช่างก่ออิฐชาวอิหร่านสองคน คือ Abbas-Ali Me'mar และ Morad Tabrizi ระหว่างปีค.ศ. 1933-1936 ด้านหน้าและมุขของอาคารได้รับแรงบันดาลใจจากซุ้มประตู Taq-e Kasra ที่มีชื่อเสียงของ Ctesiphon ซึ่งเป็นหนึ่งในตัวอย่างที่มีชื่อเสียงของสถาปัตยกรรมในสมัยซัสซาเนียน(Sasanian) งานก่ออิฐของอาคารบ่งบอกถึงการก่อสร้างอิฐของชาวเปอร์เซีย (Ctesiphon เป็นเมืองอารยธรรมโบราณริมฝั่งตะวันออกของแม่น้ำไทกริสตั้งอยู่ไม่ไกลจากกรุงแบกแดกประเทศอิรัก)

ด้านในพิพิธภัณฑ์อิหร่าน บาสตัน  หรืออิหร่านโบราณจัดแสดงวัตถุโบราณ ตั้งแต่ยุคหินเก่าตอนต้น(Lower Paleolithic) ประมาณ 1,000,000 ปีก่อน จนถึงปลายสมัยจักรวรรดิซาเซเนียน(Sasanian)  ห้องแสดงภาพชั้นแรกจะเป็นวัตถุยุคก่อนประวัติศาสตร์ รวมทั้งวัตถุยุคหินเพลิโอลิธิก(Paleolithic) อิพิปาลีโอลิธิก(Epipaleolithic) เป็นต้น

 

อีกส่วนคือพิพิธภัณฑ์โบราณคดี และศิลปะอิสลามแห่งอิหร่าน(Museum of Islamic Archaeology and Art of Iran) อาคารของพิพิธภัณฑ์โบราณคดี และศิลปะอิสลามแห่งอิหร่านได้รับการออกแบบโดยสถาปนิก Eugene Aftandilian มี 3 ชั้น ครอบคลุมพื้นที่ 4,000 ตารางเมตร 

 

สิ่งที่ควรระวังของการเข้าไปเที่ยวชมด้านในพิพิธภัณฑ์คือ ไม่อนุญาตให้ใช้ไฟแฟลชในการถ่ายภาพ เพราะจะเป็นการรบกวนผู้เข้าชมท่านอื่น และไฟแฟลชยังเป็นส่วนหนึ่งที่มีผลต่อคุณภาพของวัตถุโบราณรวมไปถึงภาพต่างๆ

 

 

irannationalmuseum

ที่มาของภาพ http://irannationalmuseum.ir


พระราชวังโกเลสตาน(Golestan Palace)

 

พระราชวังโกเลสตานตั้งอยู่กลางกรุงเตหะราน โกเลสตานแปลว่าสวนดอกไม้ เป็นสถานที่ทางประวัติศาสตร์ของอิหร่าน ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดก ประเภทมรดกทางวัฒนธรรม โดยยูเนสโก เมื่อปีค.ศ. 2013 รูปแบบของพระราชวังเป็นการผสมผสานสถาปัตยกรรมเปอร์เซียดั้งเดิมเข้ากับอิทธิพลตะวันตก พระราชวังแห่งนี้ในช่วงหนึ่งเคยตกอยู่ในภาวะตกต่ำถูกปล่อยทิ้งร้างเหมือนกับอีกหลายๆวังของอิหร่าน ตอนหลังได้มีการบูรณะและยังคงความงดงามไว้ได้อย่างเดิม ภายในตกแต่งด้วยกระจกเงาตัดเหลี่ยมแบบเพชร ด้านนอกตกแต่งด้วยกระเบื้องเคลือบมีสีสันสวยงาม ลวดลายโดดเด่นทั้งภาพคน สัตว์ ดอกไม้ ตลอดจนลวดลายทางเลขาคณิต สำหรับการเยี่ยมชมด้านในบ้างจุดสามารถถ่ายรูปได้ บางจุดก็ห้ามถ่ายรูป

 

golestan palace tehran iran

 

พระราชวังเนวารัน(Niavaran Palace)

 

พระราชวังเนวารัน(Niavaran Palace) ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของกรุงเตหะรานติดกับเชิงเขาอัลโบร์ซ(Alborz) ที่นี่เคยเป็นที่ประทับของกษัตริย์ในราชวงศ์ปาห์เลวี พระเจ้าชาห์ โมฮัมหมัด เรซา ปาห์ลาวี  เป็นชาห์องค์สุดท้ายที่ปกครองอิหร่าน (ชาฮันชาห์ หรือ Shahanshah หมายถึง ราชันย์แห่งราชา) ต่อมาได้ถูกโค่นอำนาจลงในปี ค.ศ.1979 นับเป็นการสิ้นสุดระบอบกษัตริย์ ภายในตกแต่งสวยงามแบบเปอร์เชียผสมตะวันตก มีห้องรับรองแขกบ้านแขกเมือง  ห้องจัดเลี้ยง ห้องโถงสีฟ้า ห้องประชุม มีจัดแสดงภาพส่วนพระองค์ มีตู้จัดแสดงเครื่องประดับส่วนพระองค์และของใช้ต่างๆ

 

niavaran tehran iran

 

พิพิธภัณฑ์อัญมณี(๋National Jewelry Museum)

 

พิพิธภัณฑ์อัญมณี(National Jewelry Museum) หรือพิพิธภัณฑ์เครื่องประดับแห่งชาติ นับเป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์เครื่องประดับ 10 อันดับแรกของโลกที่ควรแวะชม

พิพิธภัณฑ์ตั้งอยู่ในชั้นใต้ดินของอาคารธนาคารกลางแห่งอิหร่าน ระบบรักษาความปลอดภัยของที่นี่จึงอยู่ในขั้นเข้มงวดสุดๆ

ภายในพิพิธภัณฑ์เครื่องประดับแห่งชาติจะเก็บรวบรวมอัญมณีจากแต่ละยุคแต่ละราชวงศ์ เมื่อเข้าไปด้านในเราจะตะลึงกับของล้ำค่าต่างๆทั้งบัลลังก์นกยูงที่งดงามอลังการ มงกุฏ เทียร่า เพชร ดาบ โล่ที่ประดับด้วยอัญมณี มรกต ทับทิม และอื่นๆอีกมากมาย

ความเป็นมาของเจ้าของสมบัติบางส่วนไม่ชัดเจนว่ามีใครเป็นเจ้าของ ปัจจุบันสมบัติทั้งหมดกลายเป็นทรัพย์สินของธนาคารกลางของอิหร่าน

การจะเข้าไปเที่ยวชมที่นี่มีเวลาค่อนข้างจำกัดเพราะเปิดให้เข้าชมได้เพียง วันเสาร์-วันอังคาร เวลา 14.00 - 16.30 น. เท่านั้น เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี ไม่สามารถเข้าเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ได้ และไม่อนุญาตให้ถ่ายรูปทั้งด้านใน ด้านนอก หรือแม้แต่ตัวอาคาร ก่อนเข้าไปด้านในต้องสัมภาระทุกอย่าง

 

2. เมืองชีราช(Shiraz)

 

shiraz

 

 

เมืองชีราช(Shiraz) เคยเป็นอดีตเมืองหลวงของอาณาจักรเปอร์เชียในช่วงปี ค.ศ.1750-1800 ตัวเมืองมีอายุเก่าแก่เป็นพันๆปี ชีราซเป็นที่รู้จักในฐานะเมืองแห่งกวี วรรณกรรม ไวน์ และดอกไม้ ที่นี่มีสวนผลไม้ และสวนไม้ดอกมากมาย ชีราซยังมีฝีมือทางด้านงานโมเสกแบบฝังลายสามเหลี่ยม เครื่องเงิน การทอพรม การทอผ้ากิลิม และเมืองนี้เองก็ยังเป็นเมืองอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ซีเมนต์ น้ำตาล ปุ๋ย สิ่งทอ ผลิตภัณฑ์ไม้ งานโลหะ ในอดีตชีราซเคยเกิดแผ่นดินไหวหลายครั้ง สถานที่ท่องเที่ยวในเมืองชีราซก็มีหลายแห่งน่าสนใจไม่แพ้เตหะรานเลย

 

สุเหร่าสีชมพู(Pink Mosque)

 

สุเหร่าสีชมพู สร้างขึ้นระหว่างปี 1876 และ 1888 ในสมัยราชวงศ์ Qajar   Pink Mosque นับเป็นหนึ่งในมัสยิดที่สวยที่สุดในอิหร่าน และเป็นมัสยิดที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมากด้วยความสวยงามวิจิตรตระการตาของการตกแต่งด้วยกระเบื้องหลากสี โดยเฉพาะห้องละหมาดที่งดงามและเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายกับภาพแสงที่ส่องผ่านกระจกสีเข้ามาในห้องสีโทนชมพูแล้วตกลงบนพรมสีจัดจ้านสวยงามเกินบรรยาย 

สุเหร่าสีชมพู ยังมีอีกชื่อเรียกว่า Nasir OlMulk ซึ่งเรียกตามชื่อของผู้ที่สั่งให้สร้างสุเหร่านี้นั่นเอง สำหรับที่มาของชื่อมัสยิดสีชมพูก็เนื่องจากมีการใช้กระเบื้องสีชมพูจำนวนมากในการตกแต่งภายใน

 

pink mosque

 

สวนอีแรม(Eram Garden)

 

สวนอีแรมเป็นสวนเปอร์เซียเก่าแก่ตั้งอยู่บริเวณชายฝั่งด้านเหนือของแม่น้ำKhoshk อาคารและสวนถูกสร้างขึ้นในช่วงกลางศตวรรษที่ 13 สวนอีแรมในอดีตเป็นของผู้นำเผ่า Qashqai  จากนั้นถูกยึดไปโดยรัฐบาลกลาง

 

ป้อมคาริมคาน(Karim Khan Citadel)

 

ป้อมคาริมคาน หรือการิมข่าน สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1766-1777 โดยการิม ข่าน ซันด์ ผู้ปกครอบเปอร์เซียในยุคนั้น ป้อมแห่งนี้ประกอบด้วยส่วนของกำแพงสูงทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าสี่แห่งเชื่อมต่อกับหอคอยอิฐทรงกลมมีลายในตัวสร้างด้วยหินและปูนขาวสี่แห่งที่มุม 90 องศา ที่นี่เป็นอีกหนึ่งสถานที่ต้องห้ามพลาด

 

karim_khan_shiraz_iran

 

พระราชวังเปอร์ซีโปลิส(Persepolis Palace)

 

พระราชวังเปอร์ซีโปลิส(PERSEPOLIS PALACE) เป็นเมืองหลวงของจักรวรรดิอาเคเมนิด ก่อตั้งโดยดาริอุสที่ 1 เมื่อ 518 ปีก่อนคริสตกาล ต่อมาได้ถูกทำลายและขโมยสมบัติ ปัจจุบันเหลือแต่ซากโบราณสถาน

PERSEPOLIS นับเป็นแหล่งโบราณคดีที่ยิ่งใหญ่ของอิหร่าน เป็นอัญมณีแห่งอาคีมีนิด(Achaemenid) และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโก ในปี ค.ศ.1979

 

persepolis shiraz iran

 

ที่เมืองชีราช(Shiraz) ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจอื่นๆอีก เช่น คฤหาสน์นาราน-เจสตาน(Naran Jestan Ghavam House) สร้างขึ้นระหว่างปี ค.ศ.1879-1886 โดยคหบดี Mirza Ibrahim Khan ของตระกูล Ghavam เป็นคฤหาสน์โบราณที่มีความสวยงาม , หลุมฝังศพของHafez หรือสุสานฮาเฟซ ฮาเฟซมีชื่อเต็มๆว่า คาวาจา ชามซู ดิน มูฮัมหมัด ฮาฟิซ ชิราซิ เขาเป็นนักกวีชื่อดังของอิหร่าน 

 

 

3. เมืองมาร์พดาสท์(Marvdasht)

 

Marvdasht

 

เมืองมาร์พดาสท์(Marvdasht) เป็นอีกหนึ่งเมืองที่นับเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมที่สำคัญของอิหร่าน มีโรงงานน้ำตาล โรงงานปิโตรเคมี โรงงานตัดหิน เป็นแหล่งงานฝีมือชื่อดัง มีสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ ศาสนา สถานที่ท่องเที่ยวในเมืองนี้ เช่น Necropolis

 

เนโครโพลิส(Necropolis)


เนโครโพลิส(Necropolis) เป็นสุสานโบราณที่ฝังศพของกษัตริย์อาเคเมนิด(Achaemenid ) 4 พระองค์ เนโครโพลิสเป็นสถานที่ที่มีความสำคัญมากต่อประวัติศาสตร์ของอิหร่าน

 

Necropolis

ภาพโดย Habib Zeiniadeh จาก Pixabay


4. เมืองยาซด์(Yazd)

 

yazd

 

เมืองยาซด์(Yazd) เมืองเก่าโบราณที่มีอายุเก่าแก่ไม่แพ้เมืองไหนๆ แม้จะเป็นเมืองเล็กๆแต่ก็มีความน่าสนใจไม่น้อย ประชากรของเมืองยาซด์ยังมีคนที่นับถือศาสนาโซโรแอสเตอร์ หรือลัทธิบูชาไฟ ในอดีตเมืองยาซด์เคยเป็นเมืองที่รุ่งเรืองด้านการค้าขายจนได้รับฉายาว่าเป็น 'ราชินีแห่งท้องทะเลทราย'

บ้านเรือน ถนน ตรอก ซอก ซอย บางส่วนยังคงอนุรักษ์ไว้ได้เป็นอย่างดี พื้นที่ส่วนใหญ่ของเมืองยังมีประชากรอาศัยอยู่ และเมืองเก่านี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจาก UNESCO เมื่อปี 2017 สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญๆ เช่น 

 

วิหารลัทธิบูชาไฟ(Zoroastrian Fire Temple)

 

Zoroastrian Fire Temple เป็นศาสนสถานของศาสนาโซโรแอสเตอร์(Zoroastrianism) หรือลัทธิบูชาไฟ ปัจจุบันก็ยังมีการใช้ทำพิธีอยู่จริง ในเมืองยาซด์(Yazd) มี  Zoroastrian Fire Temple อยู่หลายแห่ง เพราะเมืองนี้นับเป็นศูนย์กลางของศาสนาโซโรแอสเตอร์ 

 

มัสยิดจาเมห์(Jameh Mosque of Yazd)

 

มัสยิดจาเมห์(Jameh Mosque of Yazd) มัสยิดชื่อดังของอิหร่านถูกพิมพ์อยู่ที่ด้านหน้าของธนบัตรมูลค่า 200 rials ของอิหร่าน สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 12 เป็นสถาปัตยกรรมเปอร์เซียสไตล์ Azari ความโดดเด่นของมัสยิดจาเมห์ก็ตรงหอคอยคู่ด้านหน้า หรือมินาเรต์ หรือหออาซาน ว่ากันว่าเป็นหอคอยที่สูงที่สุดในอิหร่าน มีความสูงประมาณ 52 เมตร เส้นผ่านศูนย์กลาง 6 เมตร  ด้านหน้าทางเข้า และด้านในของมัสยิดตกแต่งสวยงามด้วยกระเบื้องเคลือบสีน้ำเงิน ในช่วงเย็นเมื่อพระอาทิตย์กำลังจะตกนักท่องเที่ยวจะได้เห็นความสวยงามอลังการของกระเบื้องสีน้ำเงินที่ผสมผสานกับแสงอาทิตย์สีส้มและสีแดง ดูสวยแปลกตา มัสยิดจาเมห์มีทางเข้าออก 6 ทาง ซึ่งตั้งอยู่ในส่วนต่างๆ ของมัสยิด

 

jameh mosque of yazd iran

 

หอคอยแห่งความเงียบ(Tower of Silence)

 

หอคอยแห่งความเงียบ(Tower of Silence) เป็นศาสนสถาน หรือสถานที่ประกอบพิธีศพของศาสนาโซโรแอสเตอร์(Zoroastrianism) มีความเก่าแก่กว่า 1,800 ปี แม้ปัจจุบันหอคอยแห่งความเงียบไม่ได้ใช้ในพิธีทางศาสนาแล้วแต่ก็เต็มไปด้วยเรื่องราวประวัติศาสตร์ ศาสนาโซโรแอสเตอร์มีความเชื่อว่าเมื่อคนได้เสียชีวิตลงร่างกายที่ปราศจากลมหายใจจะเป็นสิ่งที่ไม่สะอาด และอาจมีสิ่งไม่ดีเข้าสิงร่างของผู้ตาย เขาจะนำศพของผู้ตายวางไว้บนหอคอยเพื่อตากแดด ศพจะถูกแดดแผดเผาและถูกนกแร้งจิกกินเนื้อ เป็นความเชื่อว่าศพจะถูกเน่าเปื่อยไปกับความชั่วร้ายไม่ดี

 

จตุรัสกลางเมือง(Amir Chakhmaq Complex)

 

สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 15 โดย Jalal-al-Din Amir-Chakhmaq ผู้ว่าราชการเมืองยาซด์ในสมัยราชวงศ์ติมูริด(Timurid) ชื่อของสถานที่แห่งนี้ตั้งตามชื่อของผู้ว่าท่านนี้นี่เอง  ความโดดเด่นของโครงสร้างด้านหน้าที่มี 3 ชั้น ตรงกลางมีหอคอยสุเหร่าสูงสองแห่ง ในตอนกลางคืนที่นี่จะเปิดไปสว่างไสวสวยงาม บริเวณโดยรอบจะมีมัสยิดตั้งอยู่  Amir Chakhmaq Complex นับเป็นแลนด์มาร์คใจกลางเมือง และอยู่ไม่ไกลจากตลาดมากนัก

 

amir chakhmaq complex

 

5. เมืองอีสฟาฮาน(Isfahan)

 

Isfahan

 

เมืองอีสฟาฮาน(Isfahan) เป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่เป็นอับดับ 3 ของอิหร่านรองจากเมืองเตหะราน(Tehran) และเมืองมาร์พดาสท์(Marvdasht) Isfahan อยู่ห่างจากกรุงเตหะรานไปทางทิศใต้ประมาณ 340 กิโลเมตร เมืองอีสฟาฮานเคยเป็นเมืองหลวงเก่าในช่วงศตวรรษที่ 16-18 ในยุคนั้นเมืองอีสฟาฮานยังเป็นศูนย์กลางการค้าโลกอีกด้วย การเดินทางจากเตหะรานไปอีสฟาฮานสามารถไปได้ทั้งรถไฟ รถบัส และเครื่องบิน

อีสฟาฮาน(Isfahan) เป็นอีกหนึ่งเมืองที่ห้ามพลาดของการมาเที่ยวอิหร่านเพราะที่นี่มีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจอยู่หลายแห่ง และโดยเฉพาะในเขตเมืองเก่าที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจาก UNESCO

 

จัตุรัสอิหม่าม(Imam Square)

 

จัตุรัสอิหม่าม(Imam Square) จัตุรัสขนาดใหญ่ในอดีตที่นี่เคยเป็นสนามแข่งโปโล สถานที่สำคัญบริเวณจัตุรัสอิหม่ามก็คือ มัสยิดอิหม่าม(Imam Mosque)

 

imam square

 ภาพโดย Ebrahim Amiri จาก Pixabay 

 

มัสยิดอิหม่าม(Imam Mosque)

 

มัสยิดอิหม่าม(Imam Mosque) หรือ Shah Mosque  หรือ Jaame'Abbasi Mosque สุดยอดสถาปัตยกรรมอิสลามเปอร์เซียอันทรงคุณค่าด้านศาสนสถานของอิสลามมิกชนในอิหร่าน  ด้านในตกแต่งด้วยกระเบื้องเคลือบสีน้ำเงินสวยเกินบรรยาย อีกหนึ่งไฮไลท์ของมัสยิดอิหม่ามคือ เสียงสะท้อนตรงกลางห้องโถงของมัสยิด หากลองเปล่งเสียงเบาๆเสียงก็สามารถดังสะท้อนไปได้ทั่วบริเวณ

 

มัสยิดชีคล็อคฟูลเลาะห์(Sheikh Lotfollah Mosque)

 

มัสยิดชีคล็อคฟูลเลาะห์(Sheikh Lotfollah Mosque) ตั้งอยู่ใกล้ๆกับมัสยิดอิหม่าม เดินออกมาเพียงนิดก็จะเจอกับอีกหนึ่งผลงานของราชวงศ์ซาฟาวิด แม้มัสยิดชีคล็อคฟูลเลาะห์จะมีขนาดไม่ใหญ่ แต่การตกแต่งด้านในก็สวยงามวิจิตรบรรจง Sheikh Lotfollah Mosque จะเป็นสถานที่ทำพิธีทางศาสนาเฉพาะพระมหากษัตริย์ และพระบรมวงศานุวงศ์เท่านั้น 

 

sheikh lotfollah mosque

 

พระราชวังอะลีคาปู(Ali Qapu Palace)

 

พระราชวังอะลีคาปู(Ali Qapu Palace) ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับมัสยิดชีคล็อคฟูลเลาะห์(Sheikh Lotfollah Mosque) ที่นี่เป็นพระราชวังหลวงของราชวงศ์ซาฟาวิดในช่วงปี ค.ศ.1501-1722 

 

และไม่ไกลจากจัตุรัสอิหม่าม(Imam Square) เพียงเดินเท้าก็จะเจอกับตลาดบาซาร์เก่า และพลาซ่าใหม่ หรือเรียกว่า Isfahan Bazar and Plaza ที่นี่เป็นแหล่งช้อปปิ้งขนาดใหญ่ของเมืองIsfahan  ตลาดบาซาร์เก่าจะเป็นแหล่งรวมของกินของใช้ที่ชาวเมืองจะมาหาซื้อของจับจ่ายใช้สอยของกินของใช้ประจำวัน ตลาดบาซาร์เก่ามีความเก่าแก่พอๆกับเมืองอีสฟาฮาน ในส่วนของพลาซ่าใหม่คงจะทำไว้เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะส่วนนี้จะอยู่บริเวณโดยรอบสามด้านของจัตุรัสอิหม่าม

 

พระราชวังเชเฮลโซตุน(Chehel Sotun Palace)

 

พระราชวังเชเฮลโซตุน(Chehel Sotun Palace) อยู่ห่างจากจตุรัสอิหม่ามประมาณ 300 เมตร ชื่อของพระราชวังแปลว่า 'วังสี่สิบเสา' พระราชวังเชเฮลโซตุนไม่ใช่ที่ประทับของกษัตริย์แต่สร้างขึ้นเพื่อรองรับแขกบ้านแขกเมือง 

 

สะพานคาจู(Khaju Bridge)

 

สะพานคาจู(Khaju Bridge) ตั้งอยู่ที่แม่น้ำZayanderud แม่น้ำที่ใหญ่ที่สุดของที่ราบสูงอิหร่าน เป็นสะพานเก่าแก่ว่ากันว่าเป็นสะพานที่สวยที่สุดในประเทศอิหร่าน สะพานมีลักษณะสองชั้นฐานล่างเป็นหิน ตัวของสะพานก่อด้วยอิฐแดง

บริเวณฐานด้านล่างของสะพานมีช่องระบายน้ำ และสามารถกักเก็บน้ำได้ ตรงจุดกลางสะพานบริเวณชั้นสองจะมีเหมือนที่ประทับชั่วคราวของพระมหากษัตริย์ ในช่วงเย็นบรรยากาศที่ Khaju Bridge จะดีมากผู้คนคึกคักเป็นจุดนัดพบอีกแห่งของเมือง

 

khaju bridge

 

หมู่บ้านอะบียาเน่ห์(Abyaneh Village) 

 

หมู่บ้านดินสีชมพูซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางหุบเขาคาร์คาส(Karkas) หุบเขาสูงใหญ่ เมืองIsfahan  เป็นหมู่บ้านที่เคยปิดตัวจากโลกภายนอก จึงยังคงความเป็นเอกลักษณ์ความสวยงามในแบบเดิมไว้ได้ อาคารบ้านเรือนต่างๆ สร้างจากวัสดุธรรมชาติอย่างอิฐ ไม้ และฉาบสุดท้ายด้วยดินเหนียวสีชมพู บ้านเมืองต่างๆในเมืองก็จะถูกสร้างสไตล์เดียวกันหลายหลังดูสบายตา ด้วยความที่อยู่กลางหุบเขาสูงบรรยากาศจึงเย็นสบายไม่ร้อนมาก มีทั้งวิวหมู่บ้าน และวิวเทือกเขาสูง สำหรับใครที่ชอบเที่ยวแนวหมู่บ้านฟรีเบิร์ดทัวร์ขอแนะนำไปเที่ยวกับ 13 Small Villages หมู่บ้านเล็กรอบโลกที่น่าไปสัมผัสสักครั้ง 

 

Abyaneh Village

 

6. เมืองคาซาน(Kashan)

 

kashan iran

 

คาซาน(Kashan) เมืองเล็กๆที่คุณภาพไม่เล็ก คาซานตั้งอยู่ระหว่างกรุงเตหะราน(Teharan) กับเมืองอีสฟาฮาน(Isfahan) ในอดีตเป็นศูนย์กลางการค้าที่สำคัญ โดยเฉพาะเป็นศูนย์กลางในการผลิตสิ่งทอ การทอผ้า ทอพรม คาซานยังมีชื่อเสียงในการทำเครื่องปั้นดินเผา กระเบื้องเคลือบอีกด้วย  และเพราะเคยเป็นศูนย์กลางการค้าที่สำคัญจึงทำให้เมืองนี้ในอดีตมีคหบดี คนที่มีฐานะดีร่ำรวยจากการทำการค้าจำนวนมาก พวกเขาได้สร้างคฤหาสน์หลังใหญ่สวยงามอลังการด้วยสถาปัตยกรรมแบบเปอร์เซียแท้ๆเอาไว้ที่เมืองนี้ คฤหาสน์หลายๆหลังได้รับการดูแลเป็นอย่างดีจนถึงปัจจุบัน และเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าเยี่ยมชม จุดเด่นอีกอย่างของเมืองคาซานคือมีชื่อเสียงในการทำน้ำมันกุหลาบ ซึ่งถือได้ว่าเป็นศูนย์กลางการทำน้ำมันกุหลาบของอิหร่านเลยก็ว่าได้ สถานที่ท่องเที่ยวในเมืองนี้ เช่น สวนฟิน(Fin Garden) หรือ Bagh-e Fin สวนเก่าแก่ของชาวเปอร์เซีย และเป็นสวนที่เก่าแก่ที่สุดในอิหร่านที่ยังหลงเหลืออยู่ Bagh-e Fin ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจาก UNESCO เมื่อปี ค.ศ.2012 อีกสถานที่ต้องห้ามพลาดเมื่อมาเมืองคาซานก็คือการเข้าเยี่ยมชมคฤหาสน์ของเหล่าเศรษฐี คฤหาสน์ที่ได้รับความนิยมในการเข้าเยี่ยมชม เช่น Borujerdi Ancient House

 

 

6 เมืองของอิหร่านน่าเที่ยวมากๆใช่ไหม อิหร่านเป็นประเทศที่ไม่น่ากลัวอย่างที่ใครๆคิด ผู้คนเป็นมิตร ชอบพูดคุย และยินดีให้ความช่วยเหลือ แต่การจะไปเที่ยวอิหร่านก็มีข้อกำหนดบางอย่างที่เราควรรู้ เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนไปเที่ยวอิหร่าน คลิกอ่าน 20 เรื่องน่ารู้สำหรับคนที่ไม่เคยไปอิหร่าน

 

         

 


 

- หากบทความนี้ดีต่อใจ ชวนคนที่คุณรักมาเที่ยวกับฟรีเบิร์ดทัวร์กันค่ะ -   

สนใจโปรแกรมทัวร์ตะวันออกกลางคลิกที่นี่

 

คุยกับครอบครัวฟรีเบิร์ดทัวร์

โทร.02-0488-785-7 Hotline 085-151-1000 , 094-782-6888 และ 093-570-3000

    instagramfreebirdtour  twitter freebirdtour  Youtube freebirdtour    


Visitors: 410,576