ญี่ปุ่น | 9 ผลไม้ญี่ปุ่นสุดฟินกินตามฤดูกาล

         

 

9 ผลไม้ญี่ปุ่นสุดฟินกินตามฤดูกาล

ไปญี่ปุ่นทั้งทีนอกจากอาหาร สถานที่ท่องเที่ยว แหล่งช้อปปิ้ง ที่เป็นจุดดึงดูดใจนักท่องเที่ยวอย่างเราๆแล้ว อีกสิ่งที่ทำให้เราติดใจประเทศญี่ปุ่นมากๆก็คือผลไม้หวานๆ สดๆ อร่อยๆ นี่เอง แต่ละฤดูกาลก็จะออกผลผลิตแตกต่างกันขึ้นอยู่กับพื้นที่ที่ปลูก และสภาพอากาศ ฟรีเบิร์ด ทราเวิล แอนด์ ทัวร์ ชวนบุกสวนพาชิม 9 ผลไม้ตามฤดูกาลของญี่ปุ่น เมื่อมาถึงแล้วต้องจัดเต็ม

 

1. สตรอเบอร์รี่ (Strawberry)

สตรอเบอร์รี่โอ้วโหววว.....ลูกโต หว๊าน หวาน เราขอยกมาเป็นอันดับแรก เพราะสตรอเบอร์รี่เป็นผลไม้ขวัญใจแอดมินเอง และเชื่อว่าเป็นขวัญใจของใครอีกหลายๆคน ปัจจุบันประเทศญี่ปุ่นปลูก และบริโภคสตรอเบอร์รี่มากที่สุดในโลกด้วย ธรรมดาที่ไหน เมืองที่ปลูกสตรอเบอร์รี่มากที่สุดก็คือ เมืองโทะจิกิ(Tochigi) ,เมืองฟุกุโอกะ(Fukuoka) ,เมืองซากะ(Saga) ฤดูกาลที่เราอยากจะแนะนำคือช่วงเดือนมกราคม-พฤษภาคม จะพบสตรอเบอร์รี่วางขายตามตลาด ซุปเปอร์มาร์เก็ต ถ้ากลัวไม่สดพอสามารถซื้อแพคเกจไปเด็ดกินที่สวนแบบสดๆ จิ้มนมข้นก็อร่อยฟินๆ ไปอีกแบบบอกเลยว่าลูกเดียวไม่พอ 

Strawberry

 

2. เชอร์รี่ (Cherry)

เชอร์รี่ ในภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า さくらんぼ (Sakuranbo ซากุระโบะ) แค่ชื่อยังดูสวยเลย ผลไม้ลูกเล็กดูน่ารัก คิกขุอาโนเนะ ถึงลูกจะเล็กแต่บอกเลยว่ารสชาติหอมหวานล้ำลึกยอดเยี่ยมมากกก เมืองที่ปลูกเชอร์รี่มากที่สุดในญี่ปุ่นคือ เมืองยามากาตะ(Yamagata) , เมืองอาโอโมริ(Aomori) , เมืองยามานาชิ(Yamanashi)

ฤดูกาลที่เก็บเชอร์รี่ในญี่ปุ่นนั้นสั้นมากโดยจะเก็บกันในช่วงเดือนมิถุนายน-กรกฎาคม เชอร์รี่ที่อร่อยจะต้องมีสีแดงกรอบหอมหวาน เชอร์รี่เป็นผลไม้ที่มีราคาแพงแต่ถ้าไปกินบางประเทศก็ถูกจนตกใจ สำหรับในประเทศญี่ปุ่นถ้าจะซื้อเป็นของฝาก และไม่อยากกังวลเรื่องความบอบช้ำขอแนะนำเป็น เชอร์รี่ดอง หรือที่แปรรูปแล้วเป็นแยม เป็นเหล้าก็เข้าทีไม่น้อย
Cherry

 

3. ลูกพีช (Peach)

ลูกพีช เป็นหนึ่งในผลไม้ที่อยากจะแนะนำเมื่อไปถึงญี่ปุ่นต้องลองชิม ลูกพีชที่ญี่ปุ่นหอมหวานกินแล้วชื่นอกชื่นใจ ถ้าอยากจะกินแบบมีกิจกรรมด้วยก็ซื้อแพคเกจเก็บลูกพีชตามฟาร์มต่างๆได้เลย ฟาร์มส่วนใหญ่จะเปิดให้เก็บลูกพีชประมาณช่วงเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม สำหรับเมืองที่ปลูกลูกพีชมากที่สุดจะเป็นเมืองยามานาชิ(Yamanashi), ฟุกูชิมะ(Fukushima), นางาโนะ (Nagano) 

Peach

 

4. เมล่อน (Melon)

เมล่อน ผลไม้รสหวานทรงกลม เปลือกนอกมีสีเขียว  ผิวของเปลือกเมล่อนขรุขระเหมือนลายของแหจับปลา เป็นผลไม้ช่วงฤดูร้อนของญี่ปุ่น ฤดูกาลที่เราจะได้กินเมล่อนอร่อยๆอยู่ในช่วงเดือนมิถุนายน-สิงหาคม เมล่อนที่มีชื่อเสียงจะอยู่ที่ ฮอกไกโด(Hokkaido), อิบารากิ(Ibaraki), คุมาโมโตะ(Kumamoto) เนื้อของผลเมล่อนก็จะมีสีแตกต่างกันตามสายพันธุ์ทั้งเนื้อสีส้มเข้ม สีขาว และสีเขียวอ่อน เวลาเลือกซื้อควรเลือกผิวของเมล่อนที่สม่ำเสมอกันทั้งลูก

Melon

 

5. องุ่น (Grapes)

องุ่นในโลกนี้มีหลายสายพันธุ์ รสชาติ และขนาดก็จะแตกต่างกันไป องุ่นของประเทศญี่ปุ่นจะมีรสชาติหวานอร่อยไม่แพ้ที่ไหนๆถ้าได้ลองชิมรับรองว่าจะหยุดกินไม่ได้   ฤดูกาลขององุ่นที่ญี่ปุ่นราวๆช่วงเดือนกรกฎาคม-ตุลาคม จังหวัดที่ปลูกองุ่นมากในญี่ปุ่น คือ จังหวัดยามานาชิ(Yamanashi), นางาโนะ(์Nagano), ยามางาตะ(Yamagata)  องุ่นที่นักท่องเที่ยวจะพบได้ในญี่ปุ่น เช่น องุ่นพันธุ์เคียวโฮ(Kyoho) เป็นพันธุ์ที่นิยมมากๆในญี่ปุ่น ผลองุ่นมีสีม่วงดำขนาดใหญ่ รสชาติหวานอมเปรี้ยวเล็กน้อย, องุ่นพันธุ์ไชน์ มัสคัส (Shine Muscat) เป็นอีกหนึ่งพันธุ์ที่ขายดีมากๆ หวานกรอบ ถูกใจคอองุ่นหลายๆคน , องุ่นพันธุ์พิโอเน่  (Pione) มีสีม่วงดำ รสหวานอร่อย , องุ่นพันธุ์มัสคัส ออฟ อเล็กซานเดรีย (Muscat of Alexandria) องุ่นเขียวรสหวาน, องุ่นพันธุ์ออโรรา แบล็ค (Aurora Black) มีสีดำรสชาติหวาน, พันธุ์เดลาแวร์ (Delaware) มีสีม่วงแดง ลูกเล็ก ราคาไม่แพง

Grapes

 

6. สาลี่ (Nashi Pear)

สาลี่ ของประเทศญี่ปุ่นจะมีผลใหญ่ หวาน กรอบ ฉ่ำน้ำ มีมากมายหลายสายพันธุ์ ช่วงฤดูที่เก็บเกี่ยวสาลี่จะอยู่ในช่วงเดือนสิงหาคม ไปจนถึงช่วงฤดูใบไม้ร่วง จังหวัดที่ปลูกสาลี่มากที่สุด คือ จังหวัดชิบะ(Chiba), อิบารากิ(Ibaraki), ทตโตริ(Tottori)  สายพันธุ์ที่เป็นที่นิยมมาก ได้แก่ “นิจุสเซกิ”  เนื้อของสาลี่จะมีความเรียบ น้ำเยอะ รสชาติหวานกรอบอมเปรี้ยวนิดๆ และสายพันธุ์ “โฮซุยุ”  เปลือกจะมีสีน้ำตาลอมแดงรสชาติจะหวานมากๆ ลักษณะของต้นสาลี่จะมีความสูงไม่มากนัก ทำให้เราสามารถเด็ดกินได้ง่ายๆ 

 

7. แอปเปิ้ล (Apple)

แอปเปิ้ลนอกจากจะรสชาติอร่อยกรอบเป็นที่ถูกอกถูกใจของใครต่อใครแล้ว แอปเปิ้ลก็ยังเป็นผลไม้ที่ให้ประโยชน์ต่อร่างกายหากรับประทานวันละ 1 ผล จะช่วยให้ร่างกายผ่อนคลายหายเหนื่อย และยังช่วยปรับระบบย่อยอาหารให้ดีขึ้นอีกด้วย แอปเปิ้ลที่ญี่ปุ่นมีหลายสายพันธุ์แต่พันธุ์ที่ได้รับความนิยมมากๆคือ พันธุ์ฟูจิ มีความกรอบรสชาติหวานอมเปรี้ยว , พันธุ์ทสึงารุ อร่อยกรอบ และพันธุ์โอริน แอปเปิ้ลเขียวรสหวานอมเปรี้ยว  ฤดูกาลที่มีการเก็บแอปเปิ้ลกันคือช่วงเดือนกันยายน-พฤศจิกายน จังหวัดที่ปลูกแอปเปิ้ลมากที่สุด ได้แก่  จังหวัดอาโอโมริ(Aomori), นางาโนะ(Nagano) และอิวาเตะ(Iwate)

Apple

 

8. แตงโม (Watermelon)

แตงโม ลูกโตๆ ถูกนำมาวางขายตามหน้าซุปเปอร์มาร์เก็ต นับเป็นสัญญาณเตือนว่าหน้าร้อนมาแล้วนะ ถ้าอยากจะรับประทานก็มีแบ่งขายเป็นเป็นชิ้น หรือแบ่งครึ่งลูก  แตงโมที่ญี่ปุ่นมีรสชาติหวานฉ่ำ น้ำเยอะ ยิ่งแช่เย็นแล้วนำมารับประทานบอกเลยว่าแก้กระหายได้ดี หรือจะโรยเกลือบนแตงโมเล็กน้อยจะช่วยดึงความหวานออกมาได้มากขึ้น แตงโมที่ญี่ปุ่นจะมีฤดูเก็บเกี่ยวตั้งแต่เดือนมิถุนายน-สิงหาคม นอกจากแตงโมที่ทานกันสดๆแล้วในฤดูร้อนนี้ก็จะมีผลิตภัณฑ์ที่ทำจากแตงโมมาวางขายด้วย เช่น ไอศกรีมรสแตงโม เยลลี่รสแตงโม  และขึ้นชื่อว่าญี่ปุ่นก็มักจะทำอะไรแปลกๆให้คนชาติอื่นได้แปลกใจอยู่เรื่อยๆ เช่นเดียวกับแตงโมรูปทรงลูกบาศก์ แตงโมขนาดยักษ์ เป็นต้น

Watermelon

 

9. ส้ม (Orange)

ส้ม เป็นผลไม้ที่ขาดไม่ได้ในช่วงฤดูหนาวเพราะที่ญี่ปุ่นช่วงฤดูหนาวจะมีผลไม้ที่ออกผลผลิตเพียงไม่กี่ชนิดหนึ่งในนั้นก็คือส้มนั่นเอง  ช่วงเดือนเก็บผลผลิตจะอยู่ประมาณเดือนตุลาคม-มกราคม ส้มที่นี่จะมีรสชาติหวาน หอม บางบ้านก็ถนอมอาหารโดยการนำส้มไปแช่ช่องฟรีชเก็บไว้กินในหน้าร้อน  จังหวัดที่ปลูกส้มมากที่สุดในญี่ปุ่น คือ จังหวัดชิบะ(Chiba), คานางาวะ(Kanagawa), ไซตามะ(Saitama) ส้มมีหลากหลายสายพันธุ์ความหวานก็จะแตกต่างกัน บางสายพันธุ์ก็ไม่มีเมล็ด เปลือกบาง  กินได้ไม่เบื่อ  ส้มยังถูกนำไปแปรรูปเป็นน้ำส้ม แยมส้ม หรือส้มตากแห้ง ประโยชน์ของส้มนั้นคับลูกแม้แต่เปลือกก็ยังสร้างกลิ่นที่ช่วยผ่อนคลายความเครียดได้อีกด้วย

Orange

 

ไปญี่ปุ่นทั้งทีไม่ใช่มีดีแค่ผลไม้เพราะประเทศนี้เขาเต็มไปด้วยสรรพสิ่งมากมายที่ทำให้นักท่องเที่ยวตื่นตาตื่นใจ เรียกว่ากลับมาถึงกับกระเป๋าเพลียกันเลยทีเดียว ญี่ปุ่นไปไม่ยากเพราะตอนนี้ยังฟรีวีซ่า ฟรีเบิร์ดทัวร์ชวนเที่ยว 32 ประเทศที่คนไทยไปเที่ยวได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า (ข้อมูล ณ เดือนตุลาคม 2562)

 

         

 


 

 

- หากบทความนี้ดีต่อใจ ชวนคนที่คุณรักมาเที่ยวกับฟรีเบิร์ดทัวร์กันค่ะ -   

สนใจโปรแกรมทัวร์ญี่ปุ่นคลิกที่นี่ 

 

คุยกับครอบครัวฟรีเบิร์ดทัวร์

โทร.02-0488-785-7 Hotline 085-151-1000 , 094-782-6888 และ 093-570-3000

 

    instagramfreebirdtour  twitter freebirdtour  Youtube freebirdtour     


Visitors: 410,471